ผงชูรสและถั่วเหลือง...มีผลเสียต่อผู้ป่วยไทรอยด์
...ถั่วเหลืองมีสารเอสโตเจนในพืชที่เรียกว่า "ไฟโตอีสโตรเจน" (Phytoestrogen) ที่ขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อและสามารถนำไปสู่ภาวะการมีบุตรยากและมะเร็งเต้านมในผู้หญิง อาหารจากถั่วเหลืองมีปริมาณกอยโตรเจน (Goitrogens) สูงซึ่งปิดกั้นการสังเคราะห์ฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งสารกอยโตรเจน (Goitrogens) เป็นสารที่ทำให้เกิดโรคคอพอกได้
...ผู้ป่วยไทรอยด์จึงควรงดทานถั่วเหลือง เครื่องดื่มจากนมถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู้ และอื่นๆและควรงดใช้เครื่องปรุงรสที่ทำจากถั่วเหลือง เช่น ซอสปรุงรส ซีอิ้ว อื่นๆ และควรงดใช้ผงชูรส
ผงชูรส
...โทษของผงชูรสจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ การรับประทานผงชูรสทุกวัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานโรคลดลง โทษของผงชูรสส่งผลให้ต่อมใต้สมองส่วนหน้าทำงานผิดปกติ ซึ่งต่อมใต้สมองส่วนหน้าจะเกี่ยวข้องกับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ TSH
...ส่วนประกอบของผงชูรสมีฤทธิ์ทำลายสมองส่วนหน้าหรือที่เรียกว่า Hypothalamus ซึ่งเป็นสมองส่วนสำคัญในการควบคุมระบบสืบพันธุ์ในร่างกาย ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์มีขนาดเล็กลง เสี่ยงต่อการเป็นหมัน นอกจากนั้นสมองส่วน Hypothalamus ยังทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย หากอวัยวะส่วนนี้ถูกทำลาย จะทำให้เจริญเติบโตช้า พัฒนาการด้านการเรียนรู้ลดลงและอาจส่งผลให้ปัญญาอ่อนได้
...ฮอร์โมนไทรอยด์ TSH เป็นฮอร์โมนที่มีการหลั่งออกตลอดชีวิต TSH จะมีระยะครึ่งชีวิตหรือประมาณครึ่งชั่วโมงที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนไทรอกซิน (thyroxine, หรือเรียก T4 ซึ่ง T4 จะมีผลเพียงแค่เล็กน้อยต่อกระบวนการเมทาบอลิซึมในร่างกาย ( กระบวนการเผาผลาญอาหาร) แต่ฮอร์โมน T4 จะเปลี่ยนแปลงเป็นไทรไอโอโดไทโรนีน (triiodothyronine หรือเรียกว่า ฮอร์โมน T3) ซึ่งจะเป็นฮอร์โมนหลักที่จะออกฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดกระบวนการเมทาบอลิซึม(กระบวนการเผาผลาญ) โดยการแปรรูปจะเกิดขึ้น 80% ในตับและอวัยวะอื่น ๆ และอีก 20% จะเกิดขึ้นในต่อมไทรอยด์เอง
ถั่วเหลือง
Susan Schenck ผู้เขียนหนังสือ The Live Food Factor และ Beyond Broccoli กล่าวว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วเหลืองมากเกินไปจะทำให้เกิดผลกระทบดังต่อไปนี้
• ความเสียหายต่อต่อมไทรอยด์ซึ่งเกิดจากสารก่อโรคคอพอกในผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง
ซอสปรุงรส (Seasoning Sauce) ทำมาจากถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์อย่างอื่นที่ได้จากถั่วเหลือง โดยการใช้กรดเข้มข้นสกัดเอาโปรตีนออกจากถั่วเหลือง ส่วน ซีอิ๊ว ใช้วิธีการหมักถั่วเหลืองเพื่อให้โปรตีนจากถั่วเหลืองออกมาโดยวิธีการย่อยสลาย เช่น น้ำปลา ซีอิ้วขาว เกลือแกง ซุปก้อน ซุปผง เต้าหู้ยี้ ซอส หรือเครื่องปรุงที่มีหลายรส เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำจิ้มสุกี้ เป็นต้น
ซีอิ้วขาวกับซอสปรุงรสต่างกันอย่างไร
...ว่าด้วยเรื่องซอสปรุงรสอาหาร เดินไปมาในซุปเปอร์มาร์เก็ต เวลาไปหยุดยืนอยู่หน้าชั้นวางเครื่องปรุงประเภทซอสต่างๆ โดยมากแล้วเราจะเลือกจากความเคยชิน ความชอบเป็นส่วนใหญ่ แต่ทะว่าทราบหรือเปล่าว่า ซอสปรุงรส ซอสถั่วเหลือง หรือ ซีอิ้วขาว มันต่างกันยังไง ทำไมจึงมีรสชาติ สี กลิ่นที่แตกต่างกัน
ซีอิ้วขาว
...ซอสถั่วเหลืองหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “ซีอิ้วขาว” (Soy Sauce) เป็นผลิตภัณฑ์ของเหลวที่ได้จากการย่อยสลายโปรตีนของถั่วเหลือง หรือส่วนผสมของถั่วเหลือง กับ แป้งข้าวสาลี หมักด้วยเชื้อจุลินทรีย์ ในพื้นที่ที่มีการควบคุมความชื้น ความสะอาด และอุณหภูมิที่เหมาะสม จนทำให้เกิดการย่อยสลายโปรตีนและแป้ง ออกมาเป็นน้ำตาลและกรดอมิโน ซีอิ้วขาวจึงให้กลิ่นและรสชาติ เค็มและหวานอ่อนๆ
ซอสปรุงรส
...ซอสปรุงรส เป็นผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มซอสถั่วเหลืองที่ได้จากการหมักย่อยโปรตีนในถั่วเหลืองที่ผ่านการสกัดน้ำมันออกแล้ว จากนั้นจึงนำมาปรับสภาพความเป็นกรดและด่างให้เหมาะสม ซึ่งในระหว่างการหมักซอสปรุงรสนั้นเอง ที่จะได้น้ำตาลและกรดอะมีโนชนิดต่างๆ ออกมา ทำให้ซอสปรุงรสมีกลิ่นหอม และรสชาติกลมกล่อมเฉพาะตัว เมื่อเติมหรือใส่ซอสปรุงรสในอาหาร อาหารจึงมีความหอม รสชาติที่เข้มข้นต่างจากการใช้ซีอิ้วขาว
“เมื่อผู้ป่วยไทรอยด์ทานอาหารและใส่เครื่องปรุงรสที่ทำจากถั่วเหลืองและมีผงชูรสเป็นส่วนผสมจะทำให้กลไกลการทำงานของการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ผิปกติทั้งระบบและจะป่วยเรื้อรังรักษาไม่หาย”
...เมื่อใดก็ตามที่การผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนถูกรบกวนจากความไม่สมดุลในเรื่องของสารอาหาร สารพิษ
จากเครื่องปรุงรส จากผงชูรส และจากถั่วเหลือง จะเป็นสิ่งที่กระตุ้น การติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งการเกิดความเครียด ก็จะทำให้ร่างกายและต่อมไทรอยด์เกิดภาวะผิดปกติได้ จะมีความร้อนผิดปกติสูงขึ้น...
***สอบถามเพิ่ม ได้ที่ โทร.061-3269599 , 093-3845359 หรือ แอดไอด ไลน์ : sajjatara***



























ความคิดเห็นต่อบทความ
ความเห็นบน MagGang(0)
ความเห็นบน Facebook()